หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับเอนไซม์ คือ


- สิ่งมีชีวิตทุกชนิดสามารถสร้างเอนไซม์ขึ้นมาใช้ได้เองด้วยวิธีและลักษณะที่แตกต่างกัน
- เอนไซม์เป็นตัวย่อยอาหารเพื่อให้สามารถนำไปใช้ในกระบวนการต่างๆของร่างกายได้    
  ถึงจะรับประทานอาหารที่ดีอย่างไรถ้าเอนไซม์ไม่ทำงานร่างกายก็จะไม่ได้รับสารอาหารใดๆ เลย
- เอนไซม์ควบคุมและเร่งปฏิกิริยาเคมีทุกชนิด ถ้าไม่มีเอนไซม์ปฏิกิริยาเคมีจะไม่เกิดหรือเกิดช้าจนร่างกายไม่สามารถรอได้
- เอนไซม์แต่ละชนิดมีหน้าที่เฉพาะตัวในการทำปฏิกิริยาเคมีจำเพาะกับสารตั้งต้นที่ถูกกำหนดให้ทำงานร่วมกันเท่านั้น เอนไซม์ชนิดย่อยแป้งจะไม่ย่อยโปรตีน เอนไซม์ชนิดย่อยไขมันจะไม่ย่อยแป้ง เป็นต้น
- เอนไซม์ถูกทำลายโดยง่ายที่ความร้อนสูงเกิน 118 องศาฟาเรนไฮต์ เพราะฉนั้น เอนไซม์เปราะบางมาก
- การแช่แข็งจะไม่ทำลายความสามารถของเอนไซม์
- การขาดเอนไซม์ส่วนใหญ่เกิดขึ้นเพราะไม่รักษาสุขภาพของตนเองและไม่ออกกำลังกาย บางกรณีอาจเกิดจากปัญหากรรมพันธุ์แต่รักษาได้ถ้าดูแลร่างกายและรับประทานเพิ่มส่วนที่ขาดหายไป
- เอนไซม์ที่มีระดับต่ำ (Low Enzyme Level) ในร่างกายสัมพันธ์กับโรคของความเสื่อมต่างๆ (ถ้าเอนไซม์ต่ำมากโรคแห่งความเสื่อมก็เกิดขึ้นมากตามมาเป็นเงาด้วยเช่นกัน)
          ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม คลิก
            สมุนไพรเอนไซม์

วิตามินหรือเกลือแร่คือเศษผงถ้า...


ถ้าไม่มีเอนไซม์ อาหารที่เรารับประทานเข้าไปทั้งหมดก็คือเศษผงธรรมดา เพราะว่าเอนไซม์ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมีเพื่อเผาผลาญอาหารให้เป็นพลังงาน โดยเฉพาะเมตาบอลิกเอนไซม์ เป็นเอนไซม์ที่สำคัญที่สุดในกระบวนการสร้างเซลล์ใหม่ในร่างกายของมนุษย์
ร่างกายจะสร้างเอนไซม์ต่างๆ ขึ้นเอง แต่เมื่อเรามีอายุมากขึ้นประกอบกับปัจจัยภายนอก เช่น สภาพแวดล้อมที่อากาศไม่บริสุทธิ์ เชื้อโรคต่างๆ อาหารที่เต็มไปด้วยสารเคมี ความเครียด ฯ สิ่งต่างๆ เหล่านี้ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการสร้างเอนไซม์ลดลง เอนไซม์จึงมีความสำคัญต่อทุกปฏิกิริยาภายในร่างกาย ถ้าไม่มีเอนไซม์ร่างกายก็จะไม่มีการหายใจ ไม่มีการย่อยอาหาร ร่างกายไม่เจริญเติบโต
อวัยวะที่ทำหน้าที่ผลิตเอนไซม์ เพื่อใช้สำหรับการย่อยอาหาร คือ ตับอ่อน ซึ่งสามารถผลิตเอนไซม์ในปริมาณ 2 แกลลอนต่อวัน เมื่ออาหารผ่านระบบการย่อยได้อย่างสมบูรณ์ จะได้สารอาหารที่มีโมเลกุลขนาดเล็กพอที่จะซึมผ่านผนังลำไส้เล็กเข้าสู่ระบบไหลเวียนโลหิต เพื่อนำสารอาหารไปเลี้ยงเซลล์ต่างๆ ของร่างกาย
เมตาบอลิกเอนไซม์ จะช่วยในการเผาผลาญสารอาหารให้เกิดเป็นพลังงาน เพื่อที่จะนำไปหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกาย
เมื่อคนเรามีอายุมากขึ้น การผลิตเอนไซม์สำหรับการย่อยอาหารของตับอ่อนก็จะมีปริมาณลดลง เพราะว่าการทำงานของตับอ่อนที่ทำงานตลอดเวลา เมื่อการทำงานของตับอ่อนลดประสิทธิภาพลง เป็นผลทำให้เอนไซม์ที่ผลิตจากตับอ่อนลดลงด้วย แต่ความต้องการเอนไซม์ในการย่อยอาหารยังคงมีความต้องการในปริมาณที่เท่าเดิม ร่างกายจึงจำเป็นที่จะต้องไปดึงเอาเมตาบอลิกเอนไซม์มาใช้สำหรับการย่อยอาหารแทน เป็นผลให้การเผาผลาญสารอาหารเพื่อสร้างพลังงานให้ร่างกายลดลง เป็นเหตุให้เซลล์ต่างๆ เริ่มเสื่อมสภาพลง ส่งผลให้เกิดโรคความเสื่อมของเซลล์ และเกิดโรคต่างๆ ตามมา
ดังนั้น เมื่อมนุษย์เรามีอายุมากขึ้น ควรที่จะรับประทานอาหารเสริมประเภทเอนไซม์ เพื่อนำไปทดแทนเอนไซม์ในร่างกายที่ผลิตได้น้อยลง
เซลล์ทั้ง 60 ล้านล้านเซลล์ ต้องใช้เอนไซม์ เพื่อเร่งปฏิกิริยาเคมีถ้าไม่มีเอนไซม์ ชีวิตจึงดำรงอยู่ไม่ได้ วิตามิน เกลือแร่ คือตัวทำปฏิกิริยาร่วมกับเอนไซม์ (Co enzyme) โดยตัวเองทำอะไรไม่ได้เลย ถ้าไม่มีเอนไซม์ วิตามินและเกลือแร่ ก็เปล่าประโยชน์ เอนไซม์เป็นผู้สร้างเซลล์ สร้างอวัยวะ และสร้างชีวิต
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม คลิก

อายุมากขึ้นเอนไซม์ผลิตได้น้อยลง


การขาดเอนไซม์ย่อยอาหารอาจจะมีได้หลายสาเหตุ แต่การขาดเอนไซม์เนื่องจากอายุมากขึ้นนั้นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ หนุ่มสาวอายุ 21-31ปี จะมีเอนไซม์โมเสสในน้ำลายมากกว่ากลุ่มผู้สูงอายุที่มีอายุ 69-100 ปีถึง 30 เท่า ฉะนั้นอายุมากขึ้น เอนไซม์ผลิตน้อยลงมากแต่ความต้องการการใช้ก็ยังคงอยู่ในระดับเดิม
ดร.ดิคซี อธิบายว่า ดูได้ง่ายๆ เริ่มจากดูที่อายุ ถ้าอายุน้อยหน่อย ร่างกายก็ยัง สามารถสร้างเอนไซม์ได้ดีพอสมควร แต่พออายุมากขึ้น 25 ปีขึ้นไป ถ้าได้รับอาหารดิบหรืออาหารสดไม่พอเพียงที่จะเอาช่วยย่อยอาหารแล้วหล่ะก็ เท่ากับยิ่งเร่งตัวเองให้แก่เร็วขึ้น ร่างกายเสื่อมเร็วขึ้น เนื่องจากทุกกิจกรรมและกระบวนการต่างๆ ในการทำงานของร่างกายจำเป็นต้องอาศัยเอนไซม์มาช่วย การทดแทนเอนไซม์ที่หดหายไปกับความเสื่อมตามวัยจะทำให้สมดุลของเอนไซม์ถูกเสริมให้ดีขึ้น ซึ่งจะมีผลช่วยในการต่อสู้โรคภัยไข้เจ็บ และทำให้สุขภาพดีขึ้น ในคนไข้เบาหวานเห็นได้ชัด ถ้าตับอ่อนต้องไปสร้างเอนไซม์ในการย่อยอาหาร ความสามารถในการสร้างอินซูลินก็ต่ำลง ดังนั้นคนที่เป็นเบาหวานควรกินอาหารดิบมากๆ คนเราต้องได้อาหารดิบในสัดส่วน 50% ของอาหารทั้งหมดที่กินเข้าไป 
คนที่เป็นโรคต่อไปนี้แสดงว่าตัวเองพร่องเอนไซม์แล้ว เบาหวาน เพราะตับอ่อนอ่อนล้า คนที่เป็นโรคเกี่ยวกับทางเดินอาหารทั้งหมด เช่น อาหารไม่ย่อย ท้องผูกสลับท้องเสีย เพราะเซลล์ต่างๆ อ่อนล้าในการสร้างน้ำย่อย โรคภูมิแพ้ต่างๆ เพราะระบบย่อยอาหารทำงานไม่ดี โมเลกุลของอาหารพลัดหลงเข้าไปในกระแสเลือดเป็นโมเลกุลใหญ่ๆ ร่างกายก็สร้างภูมิต้านทานไปสร้างโมเลกุลนั้น ทำให้เกิดคัดจมูก ผื่นขึ้นตามตัว เกิดเป็นภูมิแพ้ SLE รูมาตอยด์ สะเก็ดเงิน โรคเกาต์ โรคผิวหนัง ผู้ที่แก่ก่อนวัย มะเร็ง หัวใจ และอีกหลายต่อหลายโรค และคนที่อ้วนมีไขมันพอกตามร่างกายมากที่เรียกว่าเซลลูไลต์ เกิดขึ้นเพราะร่างกายขาดเอนไซม์ไลเปส ถ้าคุณขยันกินผักผลไม้สดหลากหลายก็จะได้เอนไซม์หลากหลายเข้ามา เอนไซม์เหล่านั้นก็จะช่วยสลายเซลลูไลต์ได้ด้วย
การขาดแคลนเมื่ออายุมากขึ้นจึงเป็นสิ่งที่ทุกคนหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เราสามารถหามาทดแทนได้โดยการรับประทานเอนไซม์เพิ่มเติมไปโดยตรง
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม คลิก

ถ้าเอนไซม์ในร่างกายมีมากพอ


เอนไซม์ในร่างกายถ้ามีมากพอคนเราอาจมีอายุยืนถึง 120 ปี เพราะว่าเอนไซม์มีความสำคัญที่สุดต่อการดำรงชีวิตอยู่ของมนุษย์และสัตว์ทั้งปวง และถือได้ว่ามีความสำคัญยิ่งกว่าออกซิเจนที่เราหายใจเข้าไปในร่างกายเสียอีก การที่มนุษย์สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้เป็นเพราะเซลล์ในร่างกายประมาณ 60 ล้านล้านเซลล์ ยังมีพลังงานและทำหน้าที่ของแต่ละเซลล์อยู่ เหตุเพราะมีเอนไซม์อยู่ในเซลล์นั่นเอง
ไมโทคอนเดรีย (Mitochondrion) คือ แหล่งสร้างพลังงานของเซลล์ พบโดย คอลลิคเกอร์ (Kollicker) 
หน้าที่ของ mitochondria
1.  ทำหน้าที่เสมือนโรงงานแปรรูปอาหารหรือเรียกว่ากระบวนการเผาผลาญ อาหารเพื่อให้ได้รหัสพันธุกรรม (DNA) ซึ่งเป็นวัตถุดิบในการซ่อมแซมเซลล์ที่สึกหรอและสร้างเซลล์ใหม่แทนเซลล์ที่ตายไป
2. เป็นแหล่งกำเนิดพลังงาน ATP ทำให้คนเราสามารถทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันได้
สร้างสารให้พลังงานสูง คือ ATP (Adenosine triphosphate) คือ โมเลกุลสารพลังงานสูงที่ให้พลังงานแก่ร่างกายเรา  โดยแยกเป็น 2 ส่วน คือ
         - เยื่อหุ้มด้านนอก ทำหน้าที่เกี่ยวข้อง กับการสร้างสารประกอบ ฟอสโฟลิปิด
         - เยื่อหุ้มด้านใน มีเอนไซม์เกี่ยวข้องกับการสังเคราะห์ ATP
3.  เป็นแหล่งผลิตเอนไซม์นับพันๆ ชนิด เพื่อใช้ในกระบวนการเผาผลาญอาหารของเซลล์ทุกเซลล์ทั่วร่างกาย ภายในเมทริกซ์มีของเหลว ที่ทำหน้าที่เป็นเอนไซม์ ซึ่งเกี่ยวข้อง กับปฏิกิริยาเคมีต่างๆ ในวัฏจักรเครปส์ (Krebs cycle) มี DNA (Deoxyribonucleic acid) RNA (Ribonucleic acid) เอนไซม์ และไรโบโซม
อยู่ภายในออร์แกเนลล์ ทำหน้าที่สังเคราะห์โปรตีนขึ้น ภายในออร์แกเนลล์
เพราะโดยปกติแล้วเซลล์ในร่างกายเราสามารถแบ่งตัวได้ตามกำหนดของโปรแกรมในนาฬิกาชีวิต และถ้าเอนไซม์ในร่างกายต่ำ โอกาสที่จะป่วยเป็นโรคเรื้อรังต่างๆ จะเกิดได้ง่ายมากๆ เพราะเซลล์ไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีหนังสือเกี่ยวกับสุขภาพเล่มหนึ่งเขียนไว้ว่า "เอนไซม์ในอาหารว่า สุขภาพ คือ ปฏิกิริยาเคมีของเอนไซม์ที่บูรณการเข้าด้วยกันอย่างมีระบบ จึงทำให้ทุกเซลล์ของร่างกายดำเนินไปอย่างปกติสุข "
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม คลิก

เอนไซม์สำคัญกว่าออกซิเจนจริงหรือ


ถ้าคนเราขาดอาหารจะสามารถมีชีวิตอยู่ได้ประมาณ 3 สัปดาห์ ถ้าขาดน้ำจะสามารถมีชีวิตอยู่ได้ประมาณ 3 วัน ถ้าขาดอากาศหายใจอาจมีชีวิตอยู่ได้ประมาณ 3 นาที แต่ถ้าชีวิตที่ปราศจากเอนไซม์จะไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ทันที จะเห็นว่า เอนไซม์มีความสำคัญยิ่งกว่าอากาศที่เราหายใจเข้าไปอีก เพราะเอนไซม์ มีความจำเป็นต่อทุกปฏิกิริยาเคมีที่เกิดขึ้นในร่างกายมนุษย์ เกลือแร่ วิตามิน และฮอร์โมน จะไม่สามารถทำงานได้หากปราศจากเอนไซม์ ร่างกายมนุษย์ อวัยวะ เนื้อเยื่อ และเซลล์ถูกควบคุมโดยการทำงานของเมตาบอลิกเอนไซม์ เอนไซม์เปลี่ยนอาหารที่เรารับประทานเข้าไปให้เป็นโครงสร้างทางเคมีที่สามารถผ่านเยื่อหุ้มเซลล์เข้าไปในระบบย่อยอาหาร และเข้าสู่กระแสเลือดได้
เมื่อไม่มีเอนไซม์ภายในร่างกาย เซลล์ต่างๆ ภายในร่างกายทั้ง 60 ล้านล้านเซลล์จะไม่มีพลังงาน เป็นผลให้เราไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ในทันที ในทุกๆ เซลล์ของสิ่งมีชีวิต จะมีเอนไซม์อยู่ เซลล์ทีไม่มีเอนไซม์ คือเซลล์ที่ตายแล้ว เราสามารถพบเอนไซม์ได้ในพืช ผัก ผลไม้ และเนื้อสัตว์ทุกชนิด แต่ต้องอยู่ในสภาพที่สดๆ เท่านั้น ในอาหารปรุงสุก เอนไซม์จะตายหมด (แต่สารอาหารยังคงมีอยู่) หากเราทานอาหารที่ไม่มีเอนไซม์บ่อยๆ ก็จะมีผลให้ร่างกายเจ็บป่วยได้ เพราะร่างกายจะขาดเอนไซม์ เมื่อขาดเอนไซม์ก็จะดึงเมตาบอลิคเอนไซม์จากเซลล์มาช่วยในการย่อยอาหาร ทำให้ระบบการทำงานของเอนไซม์ในระดับเซลล์ต้องหยุดชะงักลงชั่วขณะ ซึ่งถ้าเกิดขึ้นบ่อยๆ ร่างกายจะขาดพลังงาน ระบบการซ่อมแซมไม่สมบูรณ์ จึงเป็นที่มาของโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ 
  อากาศหรือแก๊สออกซิเจนสำหรับหายใจสำคัญที่สุดต่อมนุษย์ก็จริงแต่ออกซิเจนที่เราต้องใช้หายใจอยู่ทุกวันนี้เกิดจากปฏิกิริยาเคมีในพืชใบเขียวซึ่งผลิตเอนไซม์เป็นตัวเร่งโดยเปลี่ยนก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้เป็นแก๊สออกซิเจน โดยมีแสงแดดเป็นตัวช่วย ซึ่งกล่าวได้ว่าเรามีออกซิเจนได้เพราะเอนไซม์
          ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม คลิก

เอนไซม์ กุญแจสำคัญแห่งชีวิต


ทุกชีวิตนับตั้งแต่เกิดจนตาย ทุกวินาทีจะมีการดูดรับสารอาหารไปบำรุงเซลล์ต่างๆ ภายในร่างกายประมาณ 60 ล้านล้านเซลล์ โดยไม่ว่างเว้น เพื่อนำไปเสริมสร้างร่างกายซ้ำแล้วซ้ำเล่า อย่างไม่หยุดยั้ง และในขณะเดียวกัน ร่างกายก็จะทำลายเซลล์ที่เก่าแก่และไม่เกิดประโยชน์ต่อร่างกาย (ของเสียเก่าๆ) ออกไป การกระทำเช่นนี้ เรียกว่า การขับถ่ายของเก่าออกไปและเสริมสร้างของใหม่ขึ้นมาแทนที่
เอนไซม์มีบทบาทสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ในการที่จะทำหน้าที่บำรุงเซลล์ภายในร่างกาย อาหารทั้งหมดที่รับประทานเข้าไปล้วนจำเป็นต้องอาศัยเอนไซม์ในการย่อยสลายสารอาหารที่สลับซับซ้อนและมากมายหลายอย่างให้กลายเป็นสสารที่ร่างกายสามารถนำไปใช้ได้ ซึ่งประกอบด้วยสารโปรตีนทั้งหมดที่ร่างกายเราต้องการ ถ้าร่างกายปราศจากเอนไซม์ที่ใช้ในการย่อยสลายสารอาหารแล้ว เท่ากับว่า อาหารที่เรารับประทานเข้าไป ถึงแม้จะเป็นอาหารที่ดีมีคุณค่าทางอาหารครบทั้ง 5 หมู่ คือ คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน เกลือแร่ วิตามิน ไม่ได้ถูกย่อยสลายนำไปใช้ประโยชน์ในการบำรุงเซลล์ภายในร่างกายเลย อวัยวะที่สำคัญต่างๆ ภายในร่างกายที่ต่างทำหน้าที่ที่จะทำให้ร่างกายของมนุษย์สามารถดำรงชีวิตได้อย่างเป็นปกติ เช่น หัวใจ ทำหน้าที่ สูบฉีดโลหิตไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ภายในร่างกายตลอดเวลา, ปอด ทำหน้าที่ ในการนำออกซิเจนเข้าสู่ร่างกาย และส่งก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซค์ออกไปด้วยกระบวนการหายใจ, ตับ ทำหน้าที่ ในการสะสมแป้งเพื่อเป็นพลังงาน สร้างโปรตีนที่จำเป็นสำหรับร่างกาย สร้างภูมิคุ้มกัน และทำลายของเสียหรือสารพิษ, ไต ทำหน้าที่ ขับถ่ายของเสียที่เกิดจากการเผาผลาญอาหารประเภทโปรตีนออกจากร่างกาย เป็นต้น อวัยวะอื่นก็มีหน้าที่แตกต่างกันไป ล้วนแต่มีความสำคัญทั้งสิ้น แต่ หากเซลล์ในอวัยวะต่างๆไม่ได้รับสารอาหารจากการที่เรารับประทานเข้าไป เซลล์ก็จะเริ่มเสื่อมสภาพลง ประสิทธิภาพในการทำงานของอวัยวะต่างๆ ก็จะลดลงไปเรื่อยๆ จนก่อให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บตามมา และถ้ายกเว้นโรคกระดูก และฟันแล้ว นอกนั้นล้วนเป็นโรคที่มีสาเหตุมาจากเซลล์ที่เกิดจากสารโปรตีนทั้งสิ้น
อาจกล่าวได้ว่าการป่วยเป็นโรคต่างๆ คือ การเปลี่ยนแปลงของร่างกายชนิดหนึ่งที่อวัยวะต่างๆ ไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเปลี่ยนแปลงอาจจะเป็นได้ทั้งในทางที่ดีและไม่ดีอย่าง เช่น การหลุดล่วงของเซลล์เก่าจะผลัดเปลี่ยนด้วยเซลล์ใหม่เสมอ กลุ่มเซลล์ที่เปลี่ยนแปลงแล้วจะถูกขับถ่ายออกจากร่างกายอย่างรวดเร็วหลังจากนั้นเซลล์ใหม่จะเข้าแทนที่ เมื่อเป็นเช่นนี้ โรคทั้งหมดก็จะถูกขจัดออกไปด้วย โลกของเราวิวัฒนาการไปตามความเจริญก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์ อาจจะส่งผลดี และผลเสียต่อร่างกายของมนุษย์ แต่กุญแจดอกสำคัญที่จะไขปริศนาชีวิตให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ยืนยาว ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บก็คือ “เอนไซม์”
เอนไซม์แบบผสมที่ได้จาก พืช ผัก ผลไม้นี้ นอกจากจะสามารถปรับรักษาระบบการทำงานของอวัยวะกระเพาะ ลำไส้ ตับ หัวใจ ปอดในร่างกายของเราแล้ว ยังสามารถบรรเทาอาการของโรคมะเร็งให้ผ่อนเบาลงได้ เอนไซม์ชนิดนี้จะเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับเซลล์ที่มีชีวิตอยู่ให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้นและจะมีบทบาทในการสลายเซลล์ที่อยู่ในระยะเปลี่ยนแปลงของโรคให้หมดไปด้วยเช่นกัน
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม คลิก

เอนไซม์สำคัญต่อมนุษย์อย่างไร


ถ้าจะพูดถึงก่อนสมัย ปู่ ย่า ตา ยาย ของพวกรา จะสังเกตุเห็นว่าท่านมีอายุยืนยาวซึ่งอยู่กันมาได้โดยไม่ต้องกินอาหารเสริม หรือกินเอนไซม์เสริมซึ่งถือว่าเป็นอะไรที่โชคดีจริงๆ  เพราะพวกท่านเกิดมาในขณะที่สิ่งแวดล้อมสมบูรณ์ สะอาด อาหารสด ไม่มียาฆ่าแมลง ไม่มีการเติมสารเคมีให้พืชผัก  ผิดกันกับในปัจจุบัน หลายคนพยายามที่จะสรรหาอาหารเสริม หรือเอนไซม์เสริม มารับประทานกัน เพื่อที่จะให้ชีวิตสามารถดำรงอยู่ได้อย่างไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ เพียงแค่ใช้ชีวิตอยู่ได้ก็ลำบากแล้ว จากการสุ่มตรวจสารเคมีในร่างกายของกระทรวงสาธารณสุข พบว่าส่วนใหญ่มีสารเคมีภายในร่างกายทั้งสิ้น  ตามสถิติของกระทรวงสาธารณสุข  ย้อนหลังกลับไปสมัยนั้นหลายร้อยปีจะพบว่าโรคหัวใจ เบาหวาน ข้ออักเสบ และมะเร็ง แทบจะไม่มีให้เห็น ซึ่งคำว่า มะเร็ง จะเป็นคำแปลกประหลาดไม่ค่อยมีใครรู้จักมากนัก
ถ้าย้อนกลับไปในสมัยนั้น วิตามิน และเกลือแร่ เป็นเพียง 2 อย่างที่มีการส่งเสริมให้เป็นอาหารเสริม ต่อมาใน ค.ศ. 1930 (พ.ศ. 2473) Dr.Wolfe จากประเทศเยอรมันได้ค้นพบประโยชน์ของเอนไซม์ และวิธีการใช้เอนไซม์ที่มาจากสัตว์ และในเวลาใกล้เคียงกัน Dr.Howell ชาวอเมริกัน ได้ศึกษาประโยชน์ของเอนไซม์จากพืช จากผลการศึกษาและวิจัยของทั้งสองท่านเป็นเหตุให้มีผู้สนใจ และให้ความสำคัญ และเริ่มใช้เอนไซม์มาเป็นอาหารเสริมอย่างแพร่หลายจนมาถึงปัจจุบัน
ต่อมาในปี ค.ศ. 1940 (พ.ศ. 2483) มีการวิจัยที่พิสูจน์ได้ว่า ดี เอ็น เอ (DNA) ในเซลล์ของร่าง
กายของมนุษย์เรา เป็นตัวควบคุมการผลิตเอนไซม์ที่ใช้ในร่างกาย เช่น ตับอ่อน ทำหน้าที่สำคัญในการผลิตเอนไซม์ไว้ย่อยอาหาร (เรียกว่า เมตาบอลิค เอนไซม์) โดยหลั่งน้ำย่อยเข้าไปในลำไส้เล็กผ่านทางท่อตับอ่อน น้ำย่อยจัดเป็นเอนไซม์ที่ย่อยสลายไขมัน โปรตีน และคาร์โบไฮเดรตในอาหาร โดยปกติน้ำย่อยที่สร้างจากตับอ่อนจะยังไม่ออกฤทธิ์ จนกระทั่งเมื่อถูกหลั่งเข้าสู่ลำไส้เล็กส่วนดูโอดินัม จึงจะเริ่มทำหน้าที่ย่อยสารอาหารไขมัน โปรตีน และคาร์โบไฮเดรต ถ้าจะกล่าวว่า “เรามีชีวิตอยู่ไม่ได้ถ้าขาดเอนไซม์” ก็คงไม่ผิด โดยธรรมชาติแล้วเมื่อเราแก่ตัวลง เมตาบอลิค เอนไซม์ ก็จะผลิตได้น้อย ทำให้ระบบการย่อยสลายสารอาหารไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ร่างกายก็ได้รับสารอาหารไปเลี้ยงเซลล์ต่าง ภายในร่างกายได้น้อยลง และที่แย่ไปกว่านั้น ในปัจจุบันอาหารที่เรารับประทานเข้าไปล้วนแต่ปนเปื้อนด้วยสารเคมี และอยู่ในสภาพบรรยากาศที่เป็นมลพิษ จึงเป็นเหตุให้ชีวิตสั้นลง สำหรับคนที่มีเอนไซม์เป็นทุนในร่างกายเยอะ หรือคนที่รับประทานเอนไซม์เสริมเท่านั้นที่จะทำให้ชีวิตยืนยาวปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ เพราะเซลล์ต่างๆภายในร่างกายได้รับสารอาหารที่เพียงพอ ทำให้เซลล์ต่างๆยังคงทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม คลิก

โบนัสยูนิลิเวล

          รายได้อีกทางหนึ่งที่มีอยู่ในแผนการตลาดแบบไบนารี่ คือ โบนัสยูนิลิเวล (unilevel) เป็นรายได้ที่ได้มาจากสมาชิกหลายๆ ชั้น ตั้งแต่ชั้นที่ 1 (ชั้นลูก) เป็นต้นไป ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกทั้งด้านซ้ายหรือด้านขวา ซึ่งไม่จำกัดจำนวนสมาชิกในชั้นที่ 1 หมายถึง คุณสามารถมีลูกทีมติดตัวได้ไม่จำกัด ซึ่งเราสามารถนำไปต่อให้กับสมาชิกตำแหน่งใดก็ได้ในชั้นลึกๆ ลงไป บุคคลที่คุณแนะนำเองจะนับเป็นชั้นที่ 1 (ชั้นลูก)
          เงื่อนไขการจ่ายค่าตอบแทน
1.       คุณจำเป็นต้องมีการซื้อสินค้าซ้ำหรือรักษายอดในแต่ละเดือน ซึ่งทางบริษัทอาจหักรายได้ของคุณไว้จากรายได้อื่นๆของคุณ เช่น ค่าแนะนำ ค่าจับคู่จ่าย โบนัสแมทชิ่ง เป็นต้น จนครบตามที่กำหนดไว้ในแต่ละเดือน แต่ถ้าหักไว้ไม่ครบตามจำนวน คุณอาจต้องจ่ายเพิ่มเติม และรับสินค้าตามราคาที่กำหนด แต่หากคุณถูกหักไว้ไม่ครบตามจำนวนที่กำหนดและไม่ได้จ่ายเพิ่มเติม คุณก็จะไม่มีสิทธิ์รับค่าตอบแทนในโบนัสข้อนี้
2.       บริษัทจะกำหนดการจ่ายโบนัสให้คุณโดยพิจารณาจากสมาชิกตั้งแต่ชั้นลูกลงไปได้มีการซื้อซ้ำหรือรักษายอด โดยจ่ายเป็นรหัสละ X บาท ( X คือ จำนวนเงินที่ทางบริษัทบริษัทกำหนด เช่น 15 บาท นั่นหมายความว่าสมาชิกตั้งแต่ชั้นลูกเป็นต้นไป หากมีการซื้อซ้ำหรือรักษายอด มีจำนวนทั้งหมดกี่คน ก็นำไปคูณกับ 15 บาท เท่ากับ จำนวนเงินที่คุณจะได้รับในแต่ละเดือน)
3.       ตำแหน่งทางธุรกิจของคุณมีผลต่อจำนวนชั้นที่จะนำมานับจำนวนคน หากคุณมีตำแหน่งที่สูง จำนวนชั้นก็จะมาก เป็นผลให้จำนวนคนที่นำมานับมากตามด้วย เช่นตำแหน่งต่ำสุดอาจกำหนดให้ 5 ชั้น ตำแหน่งสูงสุด กำหนดให้ 20 ชั้น เป็นต้น
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม คลิก


รายได้จาก Matching

          ธุรกิจเครือข่ายที่มีแผนการตลาดแบบไบนารี่ส่วนใหญ่แล้วจะมีระบบการจ่ายค่าตอบแทนแบบแมทชิ่ง (matching) เพื่อแก้ปัญหาของแผนไบนารี่ในกรณีที่มีสมาชิกเพิ่มขึ้นเพียงข้างเดียว (โตข้างเดียว) ส่งผลให้ยังไม่สามารถจับคู่จ่ายได้ (ระบบจะเก็บไว้จนกว่าจะมีสมาชิกใหม่อีกข้างเข้ามา จึงจะจับคู่จ่ายได้)
          ลักษณะการจ่ายค่าตอบแทนแบบแมทชิ่ง เป็นการจ่ายเงินให้คุณในกรณีที่สมาชิกที่คุณแนะนำเข้ามามีรายได้เกิดขึ้น ระบบจะจ่ายให้คุณเป็นร้อยละของรายได้ของสมาชิกที่คุณแนะนำโดยไม่จำกัดว่าจะอยู่ด้านซ้ายหรือด้านขวา เมื่อคุณช่วยเหลือให้สมาชิกมีรายได้มากก็จะส่งผลให้คุณมีรายได้เพิ่มขึ้นด้วย แต่หากคุณสามารถที่จะแนะนำสมาชิกเข้ามาร่วมธุรกิจได้เป็นจำนวนมาก รายได้ของคุณก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ
          ข้อดีของการจ่ายค่าตอบแทนแบบแมทชิ่ง คือ สามารถนำรายได้ของสามชิกในชั้นลูก ชั้นหลาน ชั้นเหลน ฯ มาคำนวณจ่ายให้คุณด้วย
          สมาชิกที่คุณแนะนำเรียกว่าชั้นลูก ชั้นลูกไปแนะนำสมาชิกต่อเรียกว่าชั้นหลาน ชั้นหลานไปแนะนำสมาชิกต่อเรียกว่าชั้นเหลน แนะนำต่อกันไปเรื่อยๆ
          หากคุณแนะนำชั้นลูก 10 คน ชั้นลูกแนะนำต่ออีกคนละ 10 คน จะมีชั้นหลาน 100 คน ชั้นหลานแนะนำต่ออีกคนละ 10 คน จะมีชั้นเหลน 1,000 คน รวมชั้นลูกถึงชั้นหลานเป็น 1,110 คน หากทุกคนมีรายได้เกิดขึ้น คุณลองประมาณดูว่ารายได้ของคุณจะเป็นเท่าไหร่
          ส่วนใหญ่บริษัทที่จ่ายค่าแมทชิ่งให้สมาชิก บริษัทจะกำหนดเงื่อนไขว่าสมาชิกต้องมีการซื้อผลิตภัณฑ์ซ้ำในแต่ละเดือน ที่เรียกว่าซื้อซ้ำหรือรักษายอด หากเดือนใดไม่ซื้อซ้ำ ก็จะไม่ได้รับค่าตอบแทนแบบแมทชิ่ง
          แต่ก็มีบางบริษัทไม่ได้กำหนดเงื่อนไขไว้ สมาชิกสามารถที่จะรับค่าตอบแทนแบบแมทชิ่งได้ทันทีและตลอดไป และพิเศษไปกว่านั้นคือระบบจะจ่ายให้ทุกสัปดาห์
          ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม คลิก
          www.baiyanang.com
          รายได้จาก โบนัสยูนิลิเวล

รายได้จากการจับคู่จ่าย

ถ้ากล่าวถึงแผนการตลาดที่นักธุรกิจสามารถทำได้ง่าย และประสบความสำเร็จ ในยุคนี้คงไม่พ้นแผนการตลาดแบบไบนารี่ ซึ่งลักษณะของแผนไบนารี่ คือการแตกออกเป็น 2 สายงาน แยกเป็นด้านซ้าย และด้านขวา หรือพูดง่ายๆ ว่า 1 แตก 2 เหตุที่บอกว่าทำง่ายเพราะว่า แนะนำต่อเพียง 2 คน ก็สามารถทำให้ธุรกิจดำเนินไปสู่ความสำเร็จได้ โดยลักษณะการทำงานจะเป็นการทำงานแบบเป็นทีม มีการช่วยเหลือซึ่งกันและกันในสายงานเดียวกัน อัพไลน์มาช่วยดาวน์ไลน์ทำงาน เพราะได้รับผลประโยชน์ด้วยกัน
          ลักษณะเด่นของแผนไบนารี่ คือ การจับคู่จ่ายระหว่างสมาชิกภายใต้องค์กรที่อยู่ด้านซ้ายกับสมาชิกภายใต้องค์กรที่อยู่ด้านขวา โดยไม่มีการจำกัดจำนวนชั้น และไม่กำหนดเวลา นั่นคือ วันใดที่มีสมาชิกใหม่เข้ามาไม่ว่าจะเป็นด้านซ้ายหรือด้านขวาก็ตาม ระบบจะนำไปจับคู่กับสมาชิกอีกด้านหนึ่งที่ยังไม่ได้ถูกจับคู่มาก่อนทันที แล้วจ่ายเงินให้คุณ แต่หากว่าอีกด้านถูกจับคู่จ่ายไปหมดแล้ว ระบบจะเก็บไว้รอจนกว่าอีกด้านจะมีสมาชิกใหม่เข้ามา จึงจะจับคู่จ่ายให้ ระบบไม่ได้ตัดทิ้ง
          อยากจะชี้ให้เห็นข้อดีของการจับคู่จ่ายให้เห็นว่า หากวันนี้คุณเข้าร่วมธุรกิจเครือข่ายที่มีแผนการตลาดแบบไบนารี่ แล้วนำผลิตภัณฑ์ของบริษัทไปอุปโภค บริโภค และมีการแนะนำต่อเพียง 2 คน ทั้งด้านซ้ายและด้านขวา และบังเอิญคุณไม่มีความสามารถในการทำธุรกิจ แต่สมาชิกที่คุณแนะนำเข้ามาดำเนินธุรกิจตามปกติด้วยความสามารถ ทำให้เกิดสมาชิกใหม่ทั้งด้านซ้ายและด้านขวาอย่างต่อเนื่อง ระบบก็จะจับคู่จ่ายให้คุณตลอดเวลาที่มีสมาชิกใหม่เข้ามา โดยไม่มีการตัดอายุสมาชิกของคุณ
          แต่หากคุณดำเนินธุรกิจเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง โดยการแนะนำสมาชิกใหม่ และดูแลสมาชิกใหม่ให้สามารถดำเนินธุรกิจได้เป็นผลทำให้เกิดสมาชิกใหม่เป็นจำนวนมากอย่างรวดเร็ว จะส่งผลให้มีการจับคู่จ่ายมากขึ้นด้วย
          ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม คลิก
          www.baiyanang.com

รายได้จากค่าแนะนำ

ธุรกิจเครือข่ายหลายๆ บริษัทส่วนใหญ่จะมีการจ่ายค่าตอบแทนให้สมาชิกในกรณีที่มีการแนะนำสมาชิกใหม่เข้ามา
ในการดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการจำหน่ายสินค้า สิ่งที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งในการที่จะกระจายสินค้า ก็คือ การประชาสัมพันธ์หรือการโฆษณา ไม่ว่าจะเป็นทางโทรทัศน์ วิทยุ สื่อสิ่งพิมพ์ หรือโซเชียลต่างๆ ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายอย่างมหาศาลเกิดขึ้นมา และเป็นที่แน่นอนที่ทางบริษัทผู้จำหน่ายต้องนำค่าใช้จ่ายในการโฆษณามารวมอยู่ในราคาของสินค้า เป็นผลทำให้ผู้บริโภคต้องซื้อสินค้าในราคาที่แพงขึ้น
ปัจจัยที่ทำให้ราคาสินค้าสูงขึ้น คือ พ่อค้าคนกลาง ร้านค้าจำหน่าย ค่าขนส่ง
ในกรณีที่เป็นธุรกิจเครือข่าย จะไม่มีค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นที่จะทำให้ราคาของสินค้าเพิ่มขึ้น จึงมีเม็ดเงินส่วนหนึ่งเพื่อนำมาจ่ายเป็นค่าตอบแทนให้กับสมาชิกในกรณีที่มีการแนะนำสมาชิกใหม่เข้ามา เนื่องจากว่าสมาชิกได้นำสินค้าของบริษัทไปนำเสนอขายให้กับบุคคลอื่น จนเป็นเหตุให้บุคคลนั้นสมัครเป็นสมาชิกใหม่แล้วใช้สินค้า เท่ากับว่า สมาชิกได้ทำหน้าที่ในการประชาสัมพันธ์ หรือโฆษณาสินค้าของบริษัท
คุณสามารถแนะนำสมาชิกใหม่ได้ไม่จำกัด ยิ่งมีการแนะนำมาก ก็จะทำให้คุณได้รับค่าตอบแทนจากการแนะนำมากขึ้นด้วย นอกจากจะได้ค่าแนะนำแล้ว คุณยังมีรายได้อื่นๆ ตามมาอีกด้วย เช่น รายได้จากการจับคู่จ่าย รายได้จากแมทชิ่ง รายได้จากยูนิลิเวล
                   ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม คลิก
          www.baiyanang.com

ธุรกิจเครือข่ายดีจริงหรือ

          ธุรกิจเครือข่าย เป็นระบบธุรกิจการตลาดอีกรูปแบบหนึ่ง ที่เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคอย่างเราๆ สามารถได้เป็นเจ้าของธุรกิจที่สร้างรายได้จำนวนมาก โดยไม่ต้องมีความเสี่ยง ไม่ต้องลงทุนเป็นจำนวนมาก เพียงเริ่มต้นจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดี และเมื่อเกิดความประทับใจในตัวผลิตภัณฑ์ที่ใช้ ก็ทำการแนะนำหรือบอกต่อให้คนใกล้ชิดหรือคนที่รู้จักได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดีเหมือนกับเรา เป็นการโฆษณาแบบปากต่อปาก เมื่อมีการซื้อผลิตภัณฑ์ใช้ตามคำบอกเล่าจากผู้แนะนำ ก็จะทำให้เกิดการกระจายผลิตภัณฑ์ไปสู่ผู้บริโภคโดยตรง โดยไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง
          ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่เราใช้กันอยู่เป็นประจำทุกวัน เป็นระบบการกระจายผลิตภัณฑ์ที่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง และก็เป็นเรื่องธรรมดาที่พ่อค้าคนกลางก็ต้องเพิ่มราคาให้สูงขึ้นจากราคาโรงงาน แต่หากไม่มีพ่อค้าคนกลาง ผลิตภัณฑ์นั้นๆ ก็จะไม่ถึงมือผู้บริโภคอย่างเราๆ ซึ่งปัจจัยที่ทำให้พ่อค้าคนกลางต้องเพิ่มราคาให้สูงขึ้นก็มีสาเหตุ เช่น ค่าขนส่ง ค่าดำเนินการ ค่าจัดเก็บสินค้า
          แต่ใช่ว่าผลิตภัณฑ์จากพ่อค้าคนกลางจะถึงมือผู้บริโภคโดยตรง ยังต้องมีร้านค้าในแต่ละท้องถิ่นที่จะรับผลิตภัณฑ์มาจากพ่อค้าคนกลางอีกต่อหนึ่ง และก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ร้านค้าท้องถิ่นจะไม่เพิ่มราคาสินค้า
          และหลายๆ ผลิตภัณฑ์ จำเป็นอย่างยิ่งต้องมีการโฆษณาตามสื่อต่างๆ อย่างที่เราคุ้นเคยทั่วไป เช่น โทรทัศน์ วิทยุ สื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ ป้ายโฆษณา เป็นต้น ซึ่งล้วนแต่เป็นต้นทุนที่จำเป็นต้องเพิ่มเข้าไปในราคาผลิตภัณฑ์ทั้งสิ้น
          และยังมีปัจจัยอีกหลายประการที่เป็นผลทำให้ราคาของผลิตภัณฑ์ที่ถึงมือผู้บริโภคมีราคาสูงกว่าราคาจากโรงงาน
          แต่หากเป็นธุรกิจเครือข่าย ขั้นตอนต่างๆ เช่น พ่อค้าคนกลาง ร้านค้าท้องถิ่น ค่าโฆษณา จะไม่เกิดขึ้น ผลิตภัณฑ์จากโรงงานจะถูกกระจายสู่ผู้บริโภคโดยตรง บริษัทผู้ผลิต (โรงงาน) จะนำเอาค่าโฆษณา พ่อค้าคนกลาง ร้านค้าท้องถิ่น มาจ่ายให้กับผู้บริโภคที่ทำหน้าที่ในการแนะนำผลิตภัณฑ์ให้บุคคลอื่น
          ข้อดีของธุรกิจเครือข่าย
1.       ผู้บริโภคได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพในราคาที่ต่ำ
2.       ผู้บริโภคได้รับค่าตอบแทนจากการแนะนำผลิตภัณฑ์
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม คลิก

อาชีพเสริม เพิ่มรายได้

          คงไม่มีใครปฏิเสธ ถ้าหากจะทำให้คุณมีรายได้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือน ซึ่งชื่อก็บ่งบอกชัดเจนว่า เงินที่จะได้จากการทำงานเมื่อครบ 1 เดือน
1.       มีรายได้เมื่อสิ้นเดือน นั่นหมายถึง คุณต้องทำงานประมาณ 30 วัน
2.       รายได้ในแต่ละเดือนจะประมาณเท่าๆเดิม (อาจจะมีการเพิ่มขึ้นของเงินเดือนบ้างเล็กน้อย)
3.       คุณมีรายจ่ายทุกวัน
4.       คุณต้องพยายามทำให้รายจ่ายไม่มากกว่ารายได้
5.       สิ่งของเครื่องใช้ที่คุณมีความจำเป็นต้องมี เป็นผลทำให้รายจ่ายของคุณเพิ่มขึ้น
6.       การกู้ยืมเงินเพื่อซื้อหาสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น ส่งผลให้คุณต้องมีรายจ่ายเพิ่มขึ้นอีก (มีดอกเบี้ย)
จากที่กล่าวมาเป็นเหตุผลที่ทำให้หลายๆ คนต้องพยายามหาวิธีในการเพิ่มรายได้ของตนเองโดยการทำอาชีพเสริม ซึ่งก็หมายความว่า รายได้ที่มาจากหลายๆ ทาง ย่อมดีกว่ารายได้ที่มาจากทางเดียวอย่างแน่นอน
          หลายๆ คน มองหาอาชีพเสริมตามที่ตนถนัดที่สามารถทำได้ เช่น การลงทุนทำธุรกิจออนไลน์ ขายของตลาดนัดหลังจากเลิกงานประจำ ทำอาหารขายตอนเช้า เปิดธุรกิจส่วนตัวในช่วงวันหยุด ทำงานฝีมือ หรืองานฟรีแลนซ์ เป็นต้น
          ใช่ว่าเมือคุณถนัด หรือมีความสามารถในอาชีพเสริมก็สามารถทำได้ ยังมีปัจจัยอีกหลายๆ ประการที่จะส่งผลให้อาชีพเสริมของคุณประสบความสำเร็จ เช่น ทำเล ความต้องการของลูกค้าหรือผู้ใช้บริการ การลงทุนฯ
          อย่างไรก็แล้วแต่หลายๆ คนก็ยังมีความจำเป็นที่จะต้องหารายได้เสริม เพราะรายจ่ายที่เกิดขึ้นในแต่ละวันเป็นสิ่งผลักดัน บางคนทำอาชีพเสริมแล้วประสบผลสำเร็จ อาจมีรายได้เสริมมากกว่ารายได้ประจำเสียอีก แต่บางคนก็ไม่ประสบความสำเร็จทำให้มีรายจ่ายเพิ่มขึ้นมาจากการลงทุน
         ดังนั้น การจะทำอาชีพเสริมใดๆ ก็แล้วแต่ ต้องพิจารณาถึงโอกาส และความเป็นไปได้ในการที่จะประสบความสำเร็จเป็นสำคัญ ถ้าเป็นไปได้ควรเลือกอาชีพเสริมที่ลงทุนน้อย แต่รายได้มาก แต่สิ่งที่ควรพึงระวังเป็นอย่างยิ่งคือ ไม่เอาเวลาทำงานประจำไปทำอาชีพเสริม
          ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม คลิก
          www.baiyanang.com